Page 51 - 018
P. 51
51
ิ
ิ
์
ี
ุ
ิ
ั
ึ
ุ
9
็
โทษแก่มนษย์ซงบางคร4งบางส9งบางอย่างมนษย์อาจจะคดว่าส9งเหล่านั4นมประโยชนแต่ในความเปน
ิ
ุ
ฺ
็
้
ิ
ี
็
ั
จรงส9งเหล่านั4นอาจมโทษก็ได้ อัลลอฮ()เปนผู้ทรงสรางมนษย์และเปนผู้ประทานปจจัยยังชพ
ี
ู
้
ี9
ให้แก่มนษย์ พระองศ์ผู้เดยวเท่านั4นททรงรอบรในส9งทให้ประโยชนหรอให้โทษแก่มนษย์และเปนผู้
ี
ุ
ื
์
็
ุ
ิ
ี9
ิ
ิ
ุ
ิ
ุ
ื
็
ี9
ิ
ิ
ี9
สทธในการทจะอนมัตหรอสั9งห้ามส9งต่างๆทพระองค์ทรงเหนว่าเหมาะสมแก่มนษย์ พระองค์มได้
ิ
์
็
ี
ี
ี9
ิ
ิ
ิ
ุ
ิ
ิ
อนมัตส9งใดเว้นแต่ส9งนั4นเปนส9งทดมประโยชนต่อบ่าวของพระองค์และพระองค์ก็มได้ห้ามส9งใด
ี
ี9
เว้นไว้เสยแต่ว่าส9งนั4นจะให้โทษต่อบ่าวของพระองค์ ดังโองการอัลกุรอานทว่า :
ิ
: 4 ( ةﺪﺋﺎﳌا ( ) àM≈t6ÍhŠÜ9# $ ãΝ39 ¨≅Ïm& é ö≅è% öΝλm; ¨≅mé& !#sŒ$tΒ y7tΡθè=↔¡o„)
Ï
ä
ç (
t
s
ó
©
ู
ี9
ุ
ความว่า : “เขาเหล่านั4นจะถามเจ้าว่า มอะไรบ้างทถกอนมัตแก่พวก
ิ
ี
ื
ู
ุ
ิ
ี9
ิ
ี
ิ
เขา จงกล่าวเถด ทถกอนมัตแก่พวกเจ้านั4นคอส9งดๆ ทั4งหลาย” (อัล
ฺ
ิ
มาอดะฮ : 4)
็
จากโองการอัลกุรอานข้างต้นแสดงให้เหนว่า อัลลอฮ()ทรงอนมัตอาหารการกินแก่
ฺ
ิ
ุ
ิ
บ่าวของพระองค์เฉพาะส9งทดๆ มประโยชน์เท่านั4น (al-Tabariy, 2000 : 9 / 543)
ี
ี
ี9
2.4 ความหมายทรพยสนหะรอม
ั
์
ิ
ี9
ั
ิ
็
ื
ึ
ในการทจะทําความเข้าใจถงการห้ามการใช้ประโยชน์จากทรพย์สนหะรอมเบ4องต้นจําเปน
็
ต้องทําความเข้าใจกันความหมายทรพย์สนหะรอมเปนลําดับแรก
ั
ิ
22
ท่านอหม่ามอัลเฆาะซาลย (al-Ghazaliy) ได้นิยามทรัพย์สินหะรอมว่า เป็นทรัพย์สินที9
ิ
ฺ
ี
ิ
ิ
หะรอมโดยตัวของมันเองหรอหะรอมโดยวิธการได้มาไม่ถกต้องตามบทบัญญัตอสลาม (al-
ี
ื
ู
Ghazaliy, 2000: 2 /117)
23
ุ
ี
ิ
ฺ
ี
ุ
ท่าน อับดลอะซซ บน อมัร อัลเคาะตบ (Abd al-Aziz Bin ‘Umar al-Khatib) ได้ให้
ั
ั
ิ
ิ
ิ
นยามทรพย์สนหะรอมว่า การได้มาของทรพย์สนหรอประโยชนมได้อยู่ในแนวทางของบทบัญญัต ิ
ื
ิ
์
ิ
อสลาม (al-Khatib, n.d.: 5)
ิ
ี
ี
ฺ
ิ
ฺ
ี9
ฺ
มุหัมมัด บนมุหัมมัด บนอะหมัด อัลฏสย อบูหามด อัลเฆาะซาลย หจญะตุลอสลาม เกิดทเมองเคาะรอสาน ปฮ.ศ.450 เปนคนหนง ึ 9
ิ
ุ
ิ
22
ื
็
ี
ู
9
ื
ี
ี
ึ
ี
ื
ทแต่งหนังสอไว้มาก ส่วนหนงคอ อัลวะญซ เสยชวิตในปฮ.ศ.505 (al-Zirikliy,2002:7 /22, al-Subkiy,n.d. 1/50)
ี
ี9
ฺ