Page 32 - 018
P. 32

32







                                                       ิ
                                              ิ
                                             (5) มะรอนง  สาแลมง (Maroning  Salaming)ในเอกสารประกอบการสัมมนาทาง
                                       ื9
                              ฺ
                          ี
                                                                         ื
                                                    ี
                                                          ็
                       ชะรอะฮของท่าน เรอง“การใช้ภาษบาปเปนข้อผ่อนปรนหรอโอกาสของสังคม”(Kanchai Pasi bab
                                                                                   ี
                                                                                      ฺ
                       Pinkan Ponprun Re Okad Tang Sangkom) จัดโดยคณะนักศกษาเอกชะรอะฮ วิทยาลัยอลามยะลา ณ
                                                                         ึ
                                                                                               ิ
                       ห้องประชมใหญ่ คณะอสลามศกษา วิทยาลัยอสลามยะลา วิทยาเขตปตตาน วันเสารท10  กันยายน
                                                              ิ
                                                 ึ
                                           ิ
                                                                                      ี
                                                                                 ั
                                                                                              ์
                               ุ
                                                                                               ี9
                                   ี9
                                                                                ื
                                                                ้
                       2548 ในหน้าท 2-3 ท่านได้กล่าวเกี9ยวกับโครงสรางทางสังคม การเมอง การปกครอง และกฎหมาย
                                                                                      ิ
                                                                                         ิ
                                                                                   ั
                       ของประเทศไทยว่า:          การเมอง การปกครองของประเทศไทยได้รบอทธพลจากยุโรปซงเปน
                                                   ื
                                                                                                     ึ
                                                                                                        ็
                                                                                                     9
                       การเมองแบบประชาธปไตยทประชาชนมสทธร่วมในการกําหนดทศทางการเมอง แต่อยู่ในรปแบบ
                                         ิ
                                               ี9
                                                         ี
                                                                                         ื
                                                                                                    ู
                                                                               ิ
                                                           ิ
                                                             ิ
                            ื
                                                                                                        ็
                       ของการปกครองแบบ เซคคล่า (Secular) โดยแยกศาสนจักรออกจากอาณาจักร การปกครองเปน
                                               ู
                                                                                                  ็
                                                                                  ี
                                 ่
                                                                                               ิ
                                                                     ิ
                                                                        ั
                       อํานาจของฝายบรหารโดยผ่านกระบวนการนตบัญญัตในรฐสภาโดยมพระมหากษัตรย์เปนประมข
                                                             ิ
                                                              ิ
                                                                                                         ุ
                                      ิ
                       ของประเทศ
                                      ึ
                                                                                                     ิ
                                             ั
                                                                             ิ
                                                                          ิ
                                                     ู
                                                                                 ุ
                                              ถงแม้ว่ารฐธรรมนญของประเทศไทยให้สทธกับทกศาสนาสามารถดําเนนการ
                            ิ
                                                                                                ี9
                                           ื9
                                    ิ
                         ิ
                       ปฏบัตตามลัทธ ความเชอตามศาสนาของตนได้ก็ตามแต่ก็ยังอยู่ในกรอบและขอบเขตทกําหนดโดย
                                                            ี9
                       กฎหมายอยู่และด้วยสาเหตการปกครองทอยู่บนพื4นฐานการแยกศาสนจักรออกจากอาณาจักร
                                               ุ
                                                                               ิ
                                                                  ี9
                                                                              ิ
                              ็
                                      ั
                                                                          ่
                                                                                                    ็
                       ฉะนั4นเปนทยอมรบกันว่า กฎหมายหลายๆอย่างทออกโดยฝายนตบัญญัตและผ่านความเหนชอบ
                                                                                      ิ
                                 ี9
                                        ็
                       โดยรฐสภาออกมาเปนกฎหมาย ขัดแย้งกับศลธรรมและข้อกําหนดของศาสนาต่างๆ เช่น กฎหมาย
                                                            ี
                           ั
                                     ุ
                                                                                                       ิ
                                                                  ั
                                  9
                                                                                               ิ
                                          ื
                                                                                      ็
                                                    ิ
                                                 ็
                                                                     ุ
                       เกี9ยวกับสราซงสราหรอเหล้าเปนส9งต้องห้ามสําหรบทกศาสนาไม่ว่าจะเปนศาสนาอสลาม ครสต์
                                  ึ
                               ุ
                         ื
                                                       ุ
                       หรอศาสนาพุทธซงเปนศาสนาชนกล่มใหญ่ของประเทศก็ตาม  แต่กฎหมายดังกล่าวถอว่าถกต้อง
                                      ึ
                                         ็
                                                                                                ื
                                                                                                     ู
                                                                              ิ
                                                                                 ิ
                       ตามระบอบการปกครองของประเทศททกคนต้องยอมรบ และปฏบัตตามโดยยินยอมหรอไม่ก็ตาม
                                                        ี9
                                                         ุ
                                                                                                 ื
                                                                      ั
                                  ุ
                                                   ุ
                       และครอบคลมกับประชากรของทกศาสนาโดยอาจจะมข้อยกเว้นในบางกรณ       ี
                                                                     ี

                       1.4 วัตถุประสงคของการวิจย
                                     ์
                                              ั

                                         ื9
                                             ี
                                                   ี
                                         การวิจัยเรองน4ผู้วิจัยมวัตถประสงค์ดังน4  ี
                                                       ุ
                                                                                                   ิ
                                                                                           ิ
                                                                      ิ
                                                                  ั
                                           ึ
                                           1.4.1  เพื9อศกษาการใช้ประโยชน์จากทรพย์สนหะรอมตามบทบัญญัตกฎหมายอสลาม
                                                                                             ั
                                                                  ิ
                                                                                                 ิ
                                                 ์
                                           1.4.2  เพื9อวิเคราะหทัศนะนักกฎหมายอสลามต่อการใช้ประโยชน์จากทรพย์สนหะรอม
                                            1.4.3 เพื9อศกษาวิเคราะหทัศนะนักกฎหมายอสลามต่อการใช้ประโยชนจากงบทได้มา
                                                      ์
                                           ึ
                                                                                                     ี9
                                                                        ิ
                                                                                              ์
                       จากภาษสราทดําเดนการโดยสํานักงานกองทนสนับสนนการสรางเสรมสขภาพ (สสส.) และ
                                        ิ
                                                                                        ุ
                                                                                ้
                                                                                     ิ
                              ี
                                                                        ุ
                               ุ
                                   ี9
                                                               ุ
                                     ิ
                                        ุ
                                                  ิ
                                ้
                                               ุ
                       แผนงานสรางเสรมสขภาวะมสลมไทย (สสม.)
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37