Page 6 - 100
P. 6
ุ
สเหร่าอาโห
ี
ู
ึ
สถาปตยกรรมเก่าแก่ทถกสร้างขน
มากว่า 400 ป
ู้
ผเขยน : อญญณชตา รุ่งวิชานวัฒน ์
ิ
์
ั
ี
ิ
้
้
ู
ู้
ผใหขอมล : สมาน เจะปอ
ู่
ี
ั
ุ
ิ
ู่
ํ
ั
้
ื
ํ
ู
้
ู่
่
เดมสเหร่าอาโหต งอยทหมบานมะนงยง ซึ งเป นหมบานทอยตดกับแมน า เมอถึงคราวน าหลากในช่วงฤดฝนซึ งจะเกิดน า
ู่
ี
ํ
ิ
ํ
ู่
ทวมบอยครั ง จึงยายมาต งอยทหมบานอาโห ตอนยายสเหร่ามาน นไมไดทาการรื อถอนสเหร่าแล้วนามาประกอบใหม แต ่
ํ
่
้
ั
ี
้
้
่
ั
้
่
ู่
่
ุ
ุ
ั
ุ
ี
่
ิ
่
ํ
ิ
ี
ั
ุ
ั
ใช้วิธีการยกมาท งหลง บางเรื องเลาเกี ยวกับสเหร่าอาโหว่า เดมทสเหร่าต งอยริมน า เพราะปาตอนดารุสลามมการตดตอ
ี
ู่
่
ื
ี
ี
้
ํ
ึ
้
คาขายกับชวาและมะละกา เมอกาลเวลาเปลยนไปมถนนหนทางมากขน การคมนาคมทางน าจึงไมเปนทนยม ชาวบานจึง
ิ
ี
ั
ยายสเหร่ามาต งอยทหมบานอาโห
้
ุ
ู่
้
ู่
ี
ี
้
ื
่
ึ
ํ
่
สเหร่าอาโห เป นสเหร่าเก่าแก่ ตามทไดรับคาบอกเลาสบตอกันมา คาดว่าสร้างขนมากว่า 400 ปแล้ว (ช่วงสมยอยุธยา
ุ
ั
ุ
ู
ิ
ุ
์
ั
ี
ี
ตอนกลาง พ.ศ. 1991-2231) สเหร่ามเอกลกษณเฉพาะทดโดดเดน สวยงามมความนาสนใจในการศกษาเชิงประวัตศาสตร์
ี
ึ
่
่
ิ
ู้
่
สถาป ตยกรรม ศลปะและวัฒนธรรม ไมมหลกฐานว่าใครเป นผสร้าง แตคาดว่าเป นช่างจากปตตานทตดตามอลามะห์หน ี
ิ
ุ
่
ี
ี
ี
ั
ั
่
ิ
ี
ุ
ั
ภยสงครามและนาจะเป นช่างชุดเดยวกันกับทสร้างมสยดวาด อล-ฮเซน เพราะลกษณะอาคาร กรรมวิธีการก่อสร้าง และ
ั
ี
ั
ี
เทคนคการก่อสร้างมความคลายคลงกัน แตคนเฒาคนแก่บางคนเล่าว่า ผทก่อสร้างสเหร่าแห่งนคอ โตะลางอแต ซึ งเป น
ิ
ี
้
ี
ุ
่
ิ
๊
่
ี
ึ
ื
ู้
ี
ู่
ู้
ื
ิ
ี
ั
ผนาช่างจากชวามาก่อสร้าง โดยมหลกฐานทยนยนขอมลนคอ กูโบว์ (หลุมฝงศพ) ของโตะลางอแต ทอยู่ใกลกับหมบานท ี
ี
้
ี
้
ี
ู
้
ั
ี
๊
ื
ํ
ุ
ต งสเหร่า
ั
ื
้
สเหร่าอาโห กว้าง 4 เมตร ยาว 11 เมตร และสง 10 เมตร สร้างดวยไมตะเคยนท งหลัง ยกพื นสง มงหลังคาดวยกระเบอง
ั
ู
ุ
ี
ู
ุ
้
้
ั
ี
ื
ี
ิ
ั
ั
ั
ดนเผา โดยหลงคามลกษณะพิเศษคอมหลงคา 3 ชั นซ้อนกัน ลกษณะสถาป ตยกรรมเปนแบบชวาโบราณ ซึ งสมยน นยงม ี
ั
ั
ั
้
ี
ี
ู
้
้
ู
ิ
ิ
อทธิพลจากพทธและพราหมณ จึงทาใหดคลายกับกุฏ ช่องลมประตหนาตางมการแกะสลักไมทสวยงามมาก ความพิเศษ
ุ
ํ
์
้
่
้
ั
่
ู
ี
้
ื
ุ
ของสเหร่าคอ การใช้เทคนคในการก่อสร้างทไมใช้ตะปแมแตตวเดยว การเขาไมตางๆ จะใช้วิธีเขาสลกไม การเขาเดอย ซึ ง
้
ิ
้
้
ื
้
ั
ี
่
่
ี
ั
ี
่
ิ
้
ื
้
ุ
เป นวิธีเดยวกับการก่อสร้างมสยดวาด อล-ฮเซน บริเวณดานหนาของสเหร่ายงมบอน าโบราณทชาวบานเอาไว้ดมกิน
้
ี
ั
ี
ั
ุ
ํ
่
ั
่
่
ํ
่
้
ี
่
่
ื
เทาน น อหมามเลาว่า บอน าแหงนไมเคยเหอดแหงไมว่าฤดกาลใดก็ตาม
่
ู
ี
้
ั
ั
ี
ุ
ุ
ป จจุบนสเหร่าอาโหยงใช้เป นทประกอบศาสนกิจ (ละหมาด) ครบท ง 5 เวลา ทกเช้าวันศกร์ สเหร่าอาโหจะจัดใหมการร่วม
ุ
ั
ุ
ี
้
์
ู่
รับประทานอาหารเช้า เพื อหาทนช่วยเหลอศนยเดกกําพร้าทต งอยดานหลงสเหร่า ซึ งศนยเดกกําพร้าแห่งนอยู่ในความ
ุ
ู
ั
ู
ื
ี
ุ
ั
ี
์
็
็
ี
ดแลของอหมามและคนในชุมชน
ู
่