Page 72 - 067
P. 72

บทที่ 5
                                                สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ


                              ศักยภาพการผลิตแก๊สไฮโดรเจนและมีเทนจากการหมักร่วม POME กับ C. demersum ใน
                       กระบวนการย่อยสลายร่วมไร้อากาศสองขั้นตอนมีความแตกต่างอย่างไม่มีนัยส้าคัญในชุดที่มีสัดส่วน
                       ของสาหร่ายร้อยละ 10-60 (VS Basis) จึงสามารถน้ามาปรับใช้ได้ในช่วงที่ปริมาณ POME ลดลงการ

                       ผลิตไฮโดรเจนและมีเทนแบบต่อเนื่องในระบบถังปฏิกรณ์ CSTR-PFR พบว่าสามารถใช้สารละลายเถ้า
                       ปาล์มความเข้มข้น (50-70 g/ L substrate ) ปรับ pH ให้อยู่ในช่วงที่พอเหมาะกับการเจริญเติบโตของทั้ง
                       สองถังปฏิกรณ์ซึ่งมีความส้าคัญเป็นอย่างมากในการช่วยเป็นบัฟเฟอร์ให้กับระบบ โดยเฉพาะอย่าง
                       ยิ่งการในระบบของ CSTR  ใช้ในการผลิตแก๊สไฮโดรเจนที่มีการเกิดกรดขึ้นในระบบ ผลจากการ

                                                                     ุ
                       ทดลองนี้ระบบถังปฏิกรณ์ CSTR-PFR เมื่อใช้สาหร่ายพงชะโดเป็นซับสเตรตร่วมประมาณร้อยละ 10
                       (VS  Basis) ที่สภาวะ HRT  2  วันและ 30  วัน ตามล้าดับให้ผลผลิตไฮโดรเจนและมีเทนได้ประมาณ
                       81±1.2  mL-H /g-VS  และ 424±4.6  mL-CH /g-VS (344.4±4.6 mL-CH /g-COD)  เทียบเท่า
                                    2
                                                                                        4
                                                                4
                       ผลผลิตไฮโดรเจน 4.13 L-H / L substrate  และผลผลิตมีเทน 23.15 L-CH / L substrate  ซึ่งมีความเป็นไป
                                              2
                                                                                  4
                       ได้ในเชิงเศรษฐศาสตร์ที่จะพฒนากระบวนการย่อยสลายร่วมไร้อากาศสองขั้นตอนของ POME  และ
                                              ั
                       สาหร่ายพุงชะโดเพื่อการผลิตไบโอไฮเทนในระดับอุตสาหกรรมต่อไป
                              ถึงแม้ว่าผลการผลิตไฮโดรเจนและมีเทนเป็นที่น่าพอใจ แต่การศึกษาปัจจัยที่สามารถลดการ
                                             ิ
                       ผลิตกรดแลคติกหรือกรดอนทรีย์อน ๆ ในถังปฏิกรณ์ CSTR  เพอเพมผลผลิตไฮโดรเจนให้สูงขึ้นได้
                                                                             ื่
                                                                                ิ่
                                                   ื่
                       และควรมีการทดสอบสมรรถนะของระบบถังปฏิกรณ์ชนิดไหลท่อ (PFR)  ของขั้นตอนผลิตมีเทน ที่
                       อตราบรรทุกสารอนทรีย์ที่สูงขึ้นโดยการลด HRT  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการออกแบบระบบถัง
                        ั
                                      ิ
                       ปฏิกรณ์ที่มีขนาดเล็กลง ปัญหาส้าคัญที่พบในระหว่างการด้าเนินงานถังปฏิกรณ์ PFR ได้แก่การสะสม
                       ของกรดอินทรีย์ในถังปฏิกรณ์ PFR การเกิดโฟมหนาขึ้นบริเวณผิวของน้้าหมักซึ่งจ้าเป็นต้องศึกษาวิจัย
                       เพื่อแก้ไขต่อไป
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77