Page 25 - 053
P. 25
4
หากแต่เป็นของภาษาอัลกุรอานเป็นภาษาต้นฉบับที่ท่านนบีมุหัมมัด น ามาสั่งสอนแก่มนุษยชาติ
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และจะยังคงอยู่ตลอดไปจนกระทั่งวันกิยามะฮฺ แม้อัลกุรอานมีอายุพันกว่าปีก็
่
ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่เพียงอักษรเดียว หากภาษาอาหรับมิใชภาษาอัลกุรอาน แน่นอนภาษา
่
ิ
่
อาหรับก็คงสูญสลายไปนานแล้วดังเชนภาษาอื่นๆ นั้นหมายความวา อิสลามจ าเป็นต้องเรียนวชา
ภาษาอาหรับ จะต้องศึกษาภาษาอาหรับ เพราะอิสลามถกประทานลงมาเป็นภาษาอาหรับ ท่านนบี
ู
ั
มุหัมมัด ใชภาษาอาหรับ และเหล่าบรรดาสาวกของท่านถกสอนโดยภาษาอาหรับ คมภร์และ
้
ู
ี
หนังสือต่างๆล้วนบันทึกเป็นภาษาอาหรับ
ดังที่อัลลอฮฺ ได้ตรัสในคัมภีร์ อัล-กุรอาน
: 2 ) فسوي (
ความว่า "เราได้ให้อัลกุรอานลงมาเป็นภาษาอาหรับ เพื่อพวกเจ้า
จะได้ใช้ปัญญาตริตรอง"
( ยูซุฟ: 2)
อัลลอฮฺ ยังตรัสอีกว่า
…
) 103 : لحنلا (
ความว่า "....และนี่คือภาษาอาหรับที่ชัดแจ้ง"
(อันนะหลุ: 103 )
ิ
ึ
กระทรวงศกษาธการได้ตระหนักในความส าคญดังกล่าวจึงก าหนดให้สาระภาษา
ั
ึ
อาหรับเป็นสาระหนึ่งในหลักสูตรอิสลามศกษา พ.ศ. 2546 และก าหนดมาตรฐานการเรียนรู้สาระ
การเรียนรู้ภาษาอาหรับไว้ว่า “เข้าใจกระบวนการฟัง พูด อ่าน และเขยน เห็นคณคาและมีทักษะใน
ุ
ี
่
้
การใชภาษาอาหรับเพื่อการเรียนรู้ คนควา ตีความบทบัญญัติอิสลามและสื่อความหมายของ
้
้
บทบัญญัติอิสลามได้” (กระทรวงศึกษาธิการ, 2546 : 10)
ภาษาอาหรับไม่ใช่แค่เพียงจ าเป็นเพราะเป็นค าสอนค าอ่านของอัลกรุอานเพียงอย่าง
เดียว ปัจจุบันภาษาอาหรับเป็นภาษาประจ าชาติ ที่ใช้พูดกันโดยทั่วไปมากที่สุด อยู่ในอันดับที่ 5 ของ
่
โลก ซึ่งใช้ ภาษาอาหรับเป็นภาษาทางราชการ ของประเทศต่างๆ กวา 20 ประเทศและมีผู้พูดเป็น