Page 36 - 052
P. 36
21
ํ
นอกจากนี้งามพศ สัตย1สงวน (2543 : 21-22) ไดรวบรวมคานิยามของ
ิ
+
วัฒนธรรมที่สําคัญ ของนักมานุษยวิทยาที่มีชื่อเสียงไว+ดังนี้
+
ํ
เอดเวิร1ด บี ไทเล อร1 (Edward B. Tylor) ไดนิยามคาว า วัฒนธรรมไว+อย าง
็
ี่
ื
ั้
ั
+
ชัดเจนเป)นครั้งแรกว า วัฒนธรรม คอ “สิ่งทงหมดทมลักษณะซบซอน ซงรวมทงความรู+ ความเชื่อ
ั้
ึ่
ี
ั้
ี
ื่
ี่
ี
ศลปะ จริยธรรม ศลธรรม กฎหมาย ประเพณ และความสามารถอนๆ รวมทงอปนิสัยตางๆ ทมนุษย1
ิ
ุ
ได+มาโดยการเรียนรู+จากการเป)นสมาชิกของสังคม”
ื
1
ไว+ท (White) ไดให+ความหมายไว+ว า วัฒนธรรม คอ “การจัดระเบียบของ
+
ปรากฏการณตางๆ กล าวคอ เป)นการจัดระเบียบของการกระทาตางๆ หรือแบบแผนพฤตกรรมตางๆ
ํ
ิ
1
ื
การจัดระเบียบของความคิดต างๆ เช น ความเชื่อ ความรู+ตางๆ และเป)นการจัดระเบียบของความรู+สึก
ั
ั
ั
ั
ทผูกพนอยู กบสิ่งตางๆ เช น ทศนคต การจัดระเบียบดงกล าวขนอยู กบการใช+ระบบสัญลักษณ 1
ี่
ึ้
ิ
ั
วัฒนธรรม เริ่มมีขึ้นเมื่อมนุษย1กลายเป)นสัตว1เลี้ยงลูกด+วยนม ที่มีการแสดงออก โดยใช+ระบบสัญลักษณ 1
+
เพราะสัญลักษณ1สําคัญอันนี้ ทําให+วัฒนธรรมถ ายทอดจากคนๆ หนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได”
ี่
ํ
ั้
ื
ื
ู
คณ (Coon) นิยามว าคอ วัฒนธรรม คอ ผลรวมทงหมดของวิธี ททามนุษย1
อยู ได+ และมีการถ ายทอดจากชั่วชีวิตหนึ่ง โดยการเรียนรู+
เคลลี่ (Kelly) นิยามวัฒนธรรมว า คอ “ทกสิ่ง ทกอย างทมนุษย1สร+างขนมา
ุ
ื
็
ึ้
ี่
ุ
ื่
ี
เพอใช+ในการดารงชีวิตของมนุษย1 อาจเป)นสิ่งมเหตผล หรือไมมเหตผลในช วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เพอ
ี
ื่
ุ
ํ
ุ
เป)นแนวทางการปฏิบัติ หรือพฤติกรรมของมนุษย1”
เฮอร1สโกวิทส1 (Herskovits) ไดนิยามวัฒนธรรมไว+อย างสนๆ ว าคอ
ั้
+
ื
“สิ่งแวดล+อมที่มนุษย1สร+างขึ้นมา”
ี่
ลินตั้น (Linton) นิยามวัฒนธรรมว า คือ “กลุ มคนที่จัดระเบียบแล+ว ทมแบบ
ี
แผนพฤติกรรมต างๆ ที่เกิดจากการเรียนรู+อันเป)นลักษณะของสังคมที่เฉพาะของสังคมหนึ่ง”
+
ี่
บิดนีย1 (Bibney) นิยามวัฒนธรรมว า “เป)นสิ่งทมนุษย1ไดมาโดยการเรียนรู+
ิ
ั้
ิ
หรือเป)นพฤตกรรมทเกดจากการอบรมสั่งสอน รวมทงความคดของปMจเจกชนตางๆ ภายในสังคมนั้น
ิ
ี่
และความเฉลียวฉลาด ศลปะ ความคดทางสังคม และสถาบันทสมาชิกของสังคม มกยอมรับร วมกน
ั
ั
ิ
ิ
ี่
และที่สมาชิกพยายามปฏิบัติตาม”
ึ่
คูเบอร1 (Cuber) ได+นิยามวัฒนธรรม ซงเป)นคํานิยามทให+ลักษณะตางๆ ของ
ี่
วัฒนธรรมชัดเจนมากทสุดว า วัฒนธรรม คอ “แบบแผนพฤตกรรม ทเกดจากการเรียนรู+ทคอยๆ
ี่
ิ
ิ
ี่
ื
ี่
ิ
เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ และยังรวมผลผลิตทเกดจากการเรียนรู+ เช น ทศนคต คานิยม สิ่งของตางๆ ท ี่
ั
ี่
ิ
ั
ี่
คนทาขน และความรู+ทมอยู ร วมกนในกลุ มชนหนึ่งๆ และมการถายทอดไปยังสมาชิกคนอนๆ ใน
ํ
ึ้
ี
ื่
ี
สังคม”