Page 462 - 024
P. 462
462
และดังที่อัลลอฮฺ ได้ตรัสว่า
121 :
ิ
ความว่า และพวกเจ้าไม่สามารถที่จะให้ความยุติธรรมในระหว่างบรรดาหญง
ั
(บรรดาภรรยา) ได้เลย และแม้ว่าพวกเจ้าจะมีความปรารถนาอนแรงกล้าก็ตาม
(อัน-นิสาอฺ :129)
ั
ิ
โดยสรุป จึงกล่าวได้ว่าหลักส าคัญในการบรหารจัดการครอบครวให้เกิดความยุติธรรมนั้น
ิ
ต้องยึดแนวทางการปฏิบัติตามค าสอนศาสนาอสลามและตามแบบฉบับที่ท่านนบีมุฮัมมัด ผู้น า
ื่
ครอบครัวจ าเป็นต้องเกรงกลัวอัลลอฮ ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อครอบครัว ทั้งในเรองการให้ความเป็น
ธรรมแก่บรรดาภรรยา และการมอบสิทธิที่บรรดาภรรยาพึงได้รบอย่างเหมาะสมตามตามที่หลักการ
ั
ศาสนาได้ก าหนด
2) การสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว
ความสัมพันธ์ระหว่างภรรยาในครอบครัวที่ศึกษามี 3 ลักษณะ คือ 1)รปแบบเพื่อน มา
ู
จากการที่ภรรยาคนแรกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและคัดเลือกภรรยาให้แก่สามีของตน 2)รปแบบพี่กับ
ู
น้อง มาจากการที่สามีเป็นคนเลือกและถามความเห็นชอบจากภรรยา และ3)รปแบบคนรจัก มาจากการ
ู
ู้
ที่สามีเป็นผู้คัดเลือกหรือตัดสินใจคนเดียว ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบมีระดับความสนิทสนมแตกต่างกัน
ผู้ที่ที่จะเป็นสื่อกลางที่ดีที่สุดในการสรางความสัมพันธ์ในครอบครว คือ ผู้เป็นสามี
ั
้
หากสามีปฏิบัติหน้าที่ต่อภรรยาและบุตรอย่างดี จะส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกด าเนินไป
ั
อย่างราบรื่นเช่นเดียวกัน ศาสนาอิสลามได้ให้ความส าคัญกับการสร้างสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครว
ดังที่ท่านรอท่านเราะสูล ได้กล่าวไว้ว่า
7 (( ...))
ความว่า “ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่พวกท่าน คือ ผู้ที่ปฏิบัติต่อครอบครัวของเขาอย่างดี
ที่สุด และฉันเป็นผู้ที่ปฏิบัติดีที่สุดต่อครอบครัวของฉัน”
ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก พบว่ามีลักษณะเดียวกันคือ ผู้เป็นพ่อจะมี
ความพยายามใช้เวลาที่ได้อยู่ร่วมกับลูกอย่างมีคุณภาพมากที่สุด ทั้งนี้ผู้เป็นแม่ก็ยังเป็นบุคคลส าคัญที่จะ
เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดความรกของพ่อที่มีต่อลูก โดยการให้ลูกได้รบรถึงบทบาทหน้าที่นอกบ้าน
ั
ั
ู้
ของผู้เป็นพ่อ ผ่านวิธีการเล่าเรองหรอไขข้อสงสัยจากค าถามของลูก นอกจากนี้การจัดหาที่อยู่อาศัย
ื่
ื
7 หะดีษบันทึกโดย Muslim หะดีษหมายเลข 300