Page 210 - 024
P. 210
210
ู้
เขาชอบ สิ่งนี้เขาไม่ชอบ คนมันจะมาหาความจรงกับเราแต่เขาเองไม่เคยรจักความจรง
ิ
ิ
เรื่องแบบนี้เราต้องนั่งเสวนากัน นั่งบรรยาย แล้วพูดกันแรงๆ ให้สังคมได้รับรู้”
ุ
และเหตุการณ์จากอีกครอบครัวหนึ่งที่มีสาเหตคล้ายคลึงกัน คือมาจากการใช้ค าพูดที่
ขาดการระมัดระวัง เป็นลักษณะการถามโดยขาดการคิดไตรตรอง ผู้ถามจ าเป็นต้องค านึงถึงความรสึก
่
ู้
ของผู้ถูกถามมากกว่าความสนใจของตนเอง หากเป็นประเด็นที่ไม่ได้เกิดประโยชน์ก็มิควรจะกล่าวถึง
ตั้งแต่แรก ดังที่ผู้ให้ข้อมูลสะท้อนว่า
ื่
“ค าพูดคนอนมีแต่จะท าให้เราเจ็บปวด อย่าไปฟัง ท าให้ครอบครวแตกแยกเปล่าๆ เรา
ั
อยู่ครอบครัวเราแล้วไปฟังจากคนอื่นให้เสียหายท าไม มีอยู่คนหนึ่งตอนที่สามีก๊ะไปได้
คนที่สองใหม่ๆ เขามาถามว่า ‘เธออยู่ยังไง สามีถึงไปมีเมียใหม่ ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะ...’
เขาพูดต่อหน้าคนด้วย ตอนนั้นเราอายมาก หลังจากนั้นสามเดือนเขาโทรมาหา บอกว่า
ื่
สามีเขาไปมีเมียใหม่ ก๊ะตกใจมากเพราะยังนึกถึงค าพูดที่เขาพูดว่าเราต่อหน้าคนอนวัน
ั
ั
ั
นั้น คือ อลลอฮฺให้เห็นทันตาเลย เหมือนเขาไปท้ากับอลลอฮฺ แล้วอลลอฮฺก็ทดสอบเขา
ึ
ทันเห็นเลย เขาโทรมาระบายแล้วปรกษาว่า ‘จะท ายังไงต่อดี ท ายังไงถึงอดทนอยู่ได้’
ื่
พอรู้มาอีกทีปรากฏว่าตอนนี้สามีเขามีเมียสามคนแล้ว เรองอย่างนี้อย่าไปพูดท้ากับใคร
พูดไม่ได้เลย” (คุณมาซือนะ, 10 มกราคม 2556)
ื่
ั
“ประเภทเอาเรองครอบครวเราไปพูดวิพากษ์วิจารณ์ก็มี แต่เราก็ต้องให้ก าลังใจกับ
ตัวเอง เขาไม่กล้ามาพูดกับเราตรงๆ หรอก ส่วนมากก็จะพูดผ่านคนอนอกทีหนึ่ง แล้วมี
ื่
ี
คนมาเล่าให้ถึงหูเราอกที ชาวบ้านธรรมดาเขาไม่กล้าหรอก ส่วนญาติๆ ถ้าเป็นเรอง
ื่
ี
ครอบครัวเขาก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรา” (คุณอะตีกะฮฺ, 28 ธันวาคม 2555)
้
ั
่
“พวกนี้น่าจะเป็นพวกโรคจิตออนๆ ชอบสรางความแตกแยกให้กับครอบครวชาวบ้าน
เจอแบบนี้บ่อยๆ ก็เหนื่อยเหมือนกัน ทั้งตัวสามีและภรรยาทุกคนต้องหนักแน่น ต้อง
พรอมที่จะเผชิญปัญหาต่างๆ ไปด้วยกัน สามีต้องเข้าใจภรรยา ภรรยาก็ต้องเชื่อใจสามี
้
ั้
การตัดสินใจเดิน ก้าวย่างแต่ละครงมีผลกระทบหมด ฉะนั้นทุกคนต้องจับมือกันให้
ั
แน่น เพราะเวลากระทบมันไม่ใช่กระทบแค่กับผมคนเดียว แต่ส่งผลหมดทั้งครอบครว
ื
ลูกๆ ก็ด้วย จังหวะที่ต้องฝ่าพายุมรสุมภรรยาก็ต้องช่วยกันประคับประคองไม่ให้เรอ
ล่ม” (คุณเฆาะซาลี, 25 มกราคม 2556)