Page 209 - 024
P. 209
209
ู้
ู้
ี
ถือเป็นความจ าเป็นที่คนในสังคมต้องเรยนรที่จะให้เกียรติในความรสึกของผู้ถูกถาม
เรียนรู้การถามในเชิงสร้างสรรค์ ในลักษณะที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะบาดแผลที่พวกเขามี
อยู่เดิมนั้นเจ็บปวดเกินกว่าที่จะถูกซ้ าเติม คุณอับดุลรอเซะได้เล่าสะท้อนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นอีกว่า
“มีอยู่วันหนึ่ง ผมพาแม่บ้านไปเดินเที่ยวงาน แล้วเจอเพื่อนเก่า เขาก็ทักว่า ‘แล้วนี้ภรรยา
ิ
ิ
คนไหน’ ลาอลาฮะอลลัลลอฮฺ!! ตกลงวันนั้นไม่ทันได้ซื้ออะไร ผมบอกภรรยาว่า ‘ไป
กลับบ้านไปนอนดีกว่า’ ไม่นึกว่าจะมาเจอคนปากเสีย คนถามเขาไม่คิดบ้างหรอว่าถ้า
ื
ู้
ถามภรรยาเขาอย่างนั้นบ้างแล้วภรรยาเขาจะรสึกยังไง เรากะว่าจะไปเดินเที่ยวงาน
สบายใจแทนที่จะถามดีๆ ว่า ‘อสสลามุอะลัยกุมฯ พี่น้องเป็นไงบ้าง ครอบครวสบายดี
ั
ั
ไหม’ แต่นี้ลงจากรถ เดินไปแล้วเจอค าถามว่า “นี่ภรรยาคนไหน” ตกลงไม่มีอารมณ์จะ
เดินต่อ กลับบ้านดีกว่า จริงๆแค่ค าถามว่า ‘มากี่คน’ ถ้าเราตอบว่า ‘มากับครอบครว’ แค่
ั
นั้นก็จบได้แล้ว ไม่ต้องไปยุ่งว่าครอบครัวไหน”
“ผมบอกไปว่านี่แหละค าถามบิดอะฮฺ ค าถามประเภทนี้ทั้งหมดบิดอะฮฺทั้งนั้นแหละ
สมัยนบีไม่มีเศาะหาบัตคนไหนถามอย่างนั้นหรอก ‘พาภรรยาคนไหนมา’ ‘แล้วนี้มา
จากบ้านเมียไหน’ ไม่เคยเจอในหะดีษที่ผมศึกษามา ค าถามบิดอะฮฺแบบนี้ ถ้าเราไม่
ตอบไปแรงๆอย่างนี้นะ คนถามเขาไม่ส านึก คิดแต่เรองการเป็นภรรยาสองคน สามคน
ื่
สี่คนว่าเป็นสุนนะฮฺนบี แต่เราฝึกการพูดจาก่อนสิ ค าพูดอย่าไปให้รายเขา ถ้าเราเป็นคน
้
ที่ส่งเสริมการมีภรรยาหลายคน ค าพูดเราต้องไม่ไปท ารายความรสึกเขา ต้องพูดในเชิง
้
ู้
บวก ต้องฝึกพูดให้เป็น เวลาเจอกันถามแค่ว่า “มาจากไหน” ตอบว่า “มาจากบ้าน” ก็จบ
อย่าไปยุ่งเรื่องของเขา”
ู้
“บางทีผมไปกับก๊ะคนแรก แล้วเจอคนรจัก เขาถามว่า “บังมีลูกกี่คนแล้ว” ผมเอง
ู้
ั
ภรรยาผม ผมรว่าเวลาคนพูดแล้วเขารสึกยังไง เขารบได้ไหม เขารบได้ แต่ความรสึก
ู้
ั
ู้
เขาก็มีนะ ผมไม่อยากท ารายจิตใจเขา ผมตอบว่า ‘ผมมีลูก 10 คน’ ผมไม่ได้โกหก
้
เพราะลูกที่ผมมีกับเขาสิบคน และเขาก็ยืนอยู่ข้างๆ ผม พอผมไปอีกที่หนึ่ง ภรรยาไม่ได้
ไปด้วย มีคนถามว่า ‘ตอนนี้มีลูกกี่คนแล้ว’ ผมก็ตอบว่า ‘ผมมีลูก 17 คน’ ถ้าอย่างนี้เราก็
ู้
์
ู้
์
ตอบได้ปกติ ผมแครความรสึกของภรรยาผม การแครความรสึกเขานี้มันผิดเหรอ
บางครั้งเราไม่ได้โกหกแต่เราพูดความจรงไม่หมดเท่านั้นเอง เราอยู่ด้วยกันเรารว่าสิ่งนี้
ิ
ู้