Page 64 - 017
P. 64
64
Mohd Rizuan Bin Ishak (2004) เป็นต๎น
3) เอกสารขั้นตติยภูมิ (Tertiary Sources) ได๎แกํ พระมหาคัมภีร๑อัลกุรอานพร๎อม
ความหมายภาษาไทยของสมาคมนักเรียนเกําอาหรับ ประเทศไทย และหนังสือพจนานุกรมอธิบาย
ศัพท๑ภาษาอาหรับทั้งที่เป็นภาษาอาหรับและภาษาไทย เชํน Qāmūs al-Muh ฺiīț ของ Aābādiy
พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525
1.10.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล
งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่ต๎องใช๎ความรอบคอบและความพยามยามอยํางมากเพื่อให๎
ได๎ซึ่งข๎อมูลที่ถูกต๎อง เนื่องจากหัวข๎อดังกลําวเป็นหัวข๎อที่มีความสําคัญและเป็นที่สนใจสําหรับกลุํม
มุสลิมะฮฺ นักดาอิยะฮฺ ดังนั้นการเก็บรวบรวมข๎อมูลจึงต๎องใช๎กฎเกณฑ๑และแนวทางตามหลัก
วิชาการที่ได๎รับการยอมรับ ซึ่งผู๎วิจัยได๎เก็บรวบรวมข๎อมูลเอกสาร โดยรวบรวมอายะฮฺอัลกุรอาน
และหะดีษที่เกี่ยวข๎องกับการ กับการดะอฺวะฮฺ และการดะอฺวะฮฺของมุสลิมะฮฺ จากหนังสือ ตํารา
บทความ วารสาร วิทยานิพนธ๑และงานวิจัย ที่เกี่ยวข๎องกับการดะอฺวะฮฺจากภายในและตํางประเทศ
1.10.3.1 แหล่งศึกษาและค้นคว้าที่ส าคัญ
1) หอสมุดจอนห๑เอฟเคเนดี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร๑ วิทยาเขตปัตตานี
2) ห๎องสมุดวิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร๑ วิทยาเขตปัตตานี
3) ห๎องสมุดมหาลัยอิสลามยะลา
4) ห๎องสมุดอิกเราะ ตําบลเขาตูม อําเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
5) ฐานข๎อมูลสารสนเทศออนไลน๑ อาทิเชํน TDC DCMS เป็นต๎น
6) เว็บไซต๑ตํางๆ
1.10.3.2 ศึกษาภาคสนาม
ผู๎วิจัยศึกษาภาคสนามเพื่อทําการศึกษาวิธีการดะอฺวะฮฺขององค๑กรมุสลิมะฮฺในสาม
จังหวัดชายแดนภาคใต๎และกรุงเทพมหานคร เพื่อตอบคําถามในการวิจัยดังปรากฏอยูํในข๎อที่ 1.4.3
โดยกําหนดขอบเขตการวิจัยดังดังนี้
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช๎ในการเก็บข๎อมูล ได๎แกํ แกนนําขององค๑กรดะอฺวะฮฺของมุสลิมะฮฺใน
สามจังหวัดชายแดนภาคใต๎ ได๎แกํ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และกรุงเทพมหานคร จํานวน 11 คน