Page 29 - 017
P. 29
29
เทียมกันในการดําเนินชีวิต‛ (อันนัดวีย๑และคณะ, อ๎างแล๎ว: 45)
จากที่กลําวมาแล๎วสามารถขมวดความได๎วํา ‚การดะอฺวะฮฺสูํอิสลาม‛ ไมํใชํภารกิจ
สําหรับบุรุษเทํานั้นที่มีหน๎าที่ปฏิบัติ ทวําเป็นภารกิจหนึ่งของสตรีผู๎ศรัทธาเชํนกัน ดังนั้นจึงไมํมี
ความแตกตํางระหวํางบุรุษและสตรีในการให๎ความสําคัญ ตํอการเรียกร๎องสูํอัลลอฮฺ และการ
เรียกร๎องสูํอัลลอฮฺ นั้นเป็นหน๎าที่ที่สําคัญ ซึ่งไมํจํากัดเพศใดเพศหนึ่ง และถือ เป็นความจําเป็น
อยํางเรํงดํวนที่จะต๎องสนับสนุน สตรีในการดําเนินภารกิจนี้ ( Ibrāhīm, 2007: 5-6) แตํอยํางไรก็ตาม
อัลลอฮฺ ทรงสร๎างบุรุษและสตรีให๎มีความแตกตํางกันในด๎านโครงสร๎างทางกายภาพ อารมณ๑
ความรู๎สึกนึกคิด สัญชาตญาณ และการเคลื่อนไหว โดยเหตุนี้ บุรุษกับสตรีจึงมีความแตกตํางกันใน
ด๎านความต๎องการและความจําเป็นบางประการที่นําไปสูํความแตกตํางในด๎านภาระหน๎าที่ และงาน
บางอยํางที่เหมาะสมกวําในการดํารงชีวิต อัลลอฮฺ ตรัสวํา (อุสมาน ราษฏร๑นิยม, อ๎างแล๎ว: 12)
…. …
(36 : )
ความวํา ‚…และเพศชายนั้นไมํเหมือนกับเพศหญิง….‛
(อาลิ อิมรอน: 36)
มุสลิมะฮฺผู๎ซึ่งทําการเรียกร๎องเชิญชวนผู๎อื่นสูํอัลลอฮฺ จะต๎องไมํละเว๎นความ
พยายามในการเชิญชวนสตรีคนอื่นๆ สูํสัจธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่จําเป็นยิ่ง ณ เวลานี้ ทั้งนี้เพื่อแสวงหา
ความพึงพอใจตํออัลลอฮฺ และปลูกฝังจิตสํานึกในหมูํสตรีที่ขาดโอกาสรับการเรียนการสอน
อบรม และชี้แนะมากํอน (al-Hāshimi, 1997: 452) แตเนื่องด๎วยข๎อแตกตํางและข๎อจํากัดทางกายภาพ
ํ
อารมณ๑ ความรู๎สึกนึกคิด ตลอดจนข๎อบัญญัติทางศาสนาที่เฉพาะเจาะจงสําหรับสตรี และรวมถึง
ฐานะตํางๆ ของสตรีในอิสลาม เชํน ในฐานะของภรรยา มารดา หรือบุตร ทั้งหมดนี้ทําให๎การดะอฺ
วะฮฺของสตรีไมํอาจใช๎กฎเกณฑ๑และวิธีการเดียวกับกับบุรุษได๎ทั้งหมด กอปรสังคมไทยปัจจุบัน
ได๎มีการรวมกลุํมของบรรดามุสลิมะฮฺจากพื้นที่ตํางๆ เป็นสมาคม ชมรม กลุํม ตํางๆ เพื่อดําเนิน
ภารกิจดะอฺวะฮฺ เกือบทุกภาคในประเทศไทย โดยเฉพาะอยํางในสามจังหวัดชายแดนภาคใต๎และ
กรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจากประการนี้เองจึงทําให๎ผู๎วิจัยมีความสนใจในการศึกษาวิธีการดะอฺวะฮฺ