Page 104 - 160
P. 104
90
ี
“ในอนาคตคาดว่าจะมการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่มากยิ่งขึ้น และจะ
ส่งผลต่อการรองรับตลาดแรงงานในพื้นที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน ในประเภทอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งด้าน
เกษตรอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการแปรรูปผลผลิต อุตสาหกรรมการ
ท่องเที่ยว อุตสาหกรรมค้าขาย และอุตสาหกรรมอื่น ๆ และหากเป็นสถานการณ์ปกติแรงงาน
ี
อาชีวศึกษา 3 จังหวัดในเมืองต้นแบบ ไม่ต่ำกว่า 1,500 ตำแหน่งในอก 5 ปีข้างหน้า”
คำตอบที่ 5 ผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชนคนที่ 1 ให้ความเห็นว่า
“ในด้านการพัฒนากำลังคนในพื้นที่ชายแดนใต้ ก่อนหน้าที่จะมีนโยบายฉบับนี้ขึ้นมา
ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ในปี พ.ศ.2547 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา
17 ปี เราก็จะเห็นผลกระทบและผลลัพธ์ทั้งในเชิงต่อชีวิตและทรัพย์สิน ผลกระทบโดยตรงและโดย
อ้อมของสังคมและเศรษฐกิจ และดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน จะเห็นว่าแนวโน้มก่อนหน้านี้ คนใน
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นิยมไปทำงานในประเทศมาเลเซีย เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แรงงานที่มีการ
ขับเคลื่อนของไทย เป็นแรงงานจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ซึ่งเป็นการไปทำงานนอก
ฤดูกาลเกษตรในพื้นที่ ทำให้เราเห็นแนวทางว่าคนไทย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปทำงานอยู่ใน
ประเทศมาเลเซีย แต่วิธีการเดินทางไปยังเป็นวิธีการใช้มาตรการผ่อนผันทางการท่องเที่ยว จึงเป็น
แรงงานนอกกฎหมาย ซึ่งจะทำให้เสียสิทธิและประโยชน์หลายด้าน ดังนั้น วิธีการส่งเสริมให้เกิดการ
จ้างงานหรือยกเศรษฐกิจพื้นที่ เราเคยคิดวิเคราะห์ในงานวิจัยหลายชุดว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547-2550
ิ
การแกไขปัญหาเป็นการบรรเทาเหตุที่เกดแก่ชีวิตและทรัพย์สินก่อน ขณะเดียวกันเมื่อมีเหตุการณ์
้
ต่อเนื่องมาเกิน 3 ปีขึ้นไป สิ่งที่เราต้องพิจารณา คือ การกลับมาตั้งศูนย์บริหารราชการจังหวัด
ชายแดนภาคใต้ มีการออกแบบกฎหมายใหม่ เป็นพระราชบัญญัติ 2 ฉบับ คือ
พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 และ
พระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 ซึ่ง พ.ร.บ. ทั้ง 2 ฉบับ
เป็นเหมือนปีกคนละด้าน โดยปีกแรก คือ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ เป็นหน่วยปฏิบัติ ขึ้นตรงต่อ
นายกรัฐมนตรี ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปีกทสอง คือ พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัด
ี่
ชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 เน้นการพัฒนาพื้นที่ ใช้หลักการประสานงานกับพื้นที่ ซึ่งมีราชการ
ั
ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นปฏิบัติหน้าที่ร่วมกบภาคเอกชน และภาคประชาสังคมด้วย
เป็นหน่วยงานด้านการแก้ไขปัญหาและพัฒนา ซึ่งมีการหารือกับส่วนต่าง ๆ ของภาคเอกชนและภาค
ประชาสังคมเกี่ยวกับกลไกใดบ้างที่จะช่วยบรรเทาปัญหา ผลกระทบ ซึ่งได้รับทราบหลายประเด็นว่า
การขับเคลื่อนแก้ปัญหาและพฒนาเศรษฐกิจและสังคม ต้องทำไปพร้อม ๆ กัน ไม่ละทิ้งอย่างใดอย่าง
ั
หนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่มุ่งเป้าสำคัญที่สุด คือ ต้องเกิดการสร้างงานใหม่ และการจ้างงานคนในพื้นที่ ที่ทำให้
ผู้ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่อพยพออกไปนอกถน โดยที่แรงงานอาชีวศึกษาใน 3 จังหวัด
ิ่
เมืองต้นแบบนี้ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ตำแหน่ง ภายใน 5 ปี”