Page 60 - 067
P. 60
46
HHRT 7 d HRT 5 d 4 d 3 d 2 d 1 d
1400
I II III IV V VI VII VIII IX
1200
Lactic
conc. VFA (mM) 800 Propyonic
1000
Acetic
600
Butiric
400
200
0
0 20 40 60 80 100 120 140
time (day)
ิ
ุ
ภาพที่204.7 กรดอนทรีย์จากการหมักร่วมระหว่าง POME และสาหร่ายพงชะโดด้วยถัง
ปฏิกรณ์ CSTR ที่สภาวะ (I) เริ่มต้นป้อน POME สารละลาย NaHCO 2.5 g/L และ ป้อน POME ที่
3
ุ
HRT 7 วัน, (II) ป้อน POME ผสมสาหร่ายพงชะโดร้อยละ 5 (VS Basis) ที่ HRT 7 วัน, (III, IV, V)
ุ
ป้อน POME ผสมสาหร่ายพงชะโดร้อยละ 5, 30 และ 10 (VS Basis) ตามล้าดับ ที่ HRT 5 วัน และ
(VI, VII, VIII, IX) ป้อน POME ผสมสาหร่ายพงชะโดร้อยละ 10 (VS Basis) ที่ HRT 4, 3, 2, และ 1
ุ
วัน ตามล้าดับ
4.4 การผลิตแก๊สมีเทนแบบป้อนต่อเนื่องด้วยน้้าทิ้งจากขั้นตอนผลิตไฮโดรเจน
การผลิตมีเทนจากน้้าหมักจากกระบวนการผลิตแก๊สไฮโดรเจนแบบต่อเนื่องในถังปฏิกรณ์
PFR ขนาด 43.0 L (ปริมาตรใช้งาน 29.0 L) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สองของกระบวนการย่อยสลายแบบ
ไร้อากาศสองขั้นตอน ที่สภาวะเมโซฟิลิกที่อุณหภูมิห้อง การทดลองครั้งนี้ท้าการผลิตมีเทนโดยควบคุม
ระยะเวลากักเก็บน้้า (HRT) 52.5 วัน ช่วงเริ่มต้นระบบเติมกล้าเชื้อเทียบเป็นร้อยละ 75 ของปริมาตร
ใช้งานทั้งหมดและเติมน้้าหมักจากขั้นตอนการผลิตไฮโดรเจนจากการหมักร่วม POME และสาหร่าย
ื่
พุงชะโดที่สภาวะ HRT 7 วัน ให้ได้ปริมาตรใช้งานหลังจากนั้นไม่ท้าการป้อนซับสเตรตเข้าสู่ระบบเพอ
ปล่อยให้กลุ่มจุลินทรีย์ปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมใหม่ (22 วันแรก) พบว่า 7 วันหลังของการ
ทดลอง จากภาพที่ 4.8 กลุ่มเชื้อจุลินทรีย์เริ่มผลิตแก๊สถึงแม้ว่าร้อยละความเข้มข้นช่วงเริ่มต้นของ
ิ่
มีเทนจะยังคงมีน้อยดังแสดงในภาพที่ 4.10 แต่ก็มีแนวโน้มค่อย ๆ เพมขึ้นจนกระทั่งคงที่ต้งแต่วันที่
18 และมี pH ของน้้าหมักเริ่มสูงและขึ้นเข้าสู่สภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ใน
ั
กลุ่มนี้ (7.4-7.9) ดังภาพที่ 4.9 แสดงความสัมพนธ์ระหว่าง pH และผลผลิตของแก๊สที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็น
สภาวะ pH ที่เหมาะสมส้าหรับการเจริญเติบโตของกลุ่มจุลินทรีย์ผลิตมีเทน (Kongjan et al., 2011)
จากนั้นจึงเริ่มด้าเนินการเติมน้้าหมักจากขั้นตอนการผลิตไฮโดรเจนที่ HRT 7 วัน ที่อตราการไหล
ั
เทียบเท่า HRT 52.5 วัน พบว่าปริมาณแก๊สมีเทนที่เกิดขึ้นนั้นมีแนวโน้มเพมขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงวันที่
ิ่