Page 157 - 054
P. 157
136
ิ
ิ
ิ
็
ความต้องการท าพินัยกรรมให้ถกต้องตามหลักการของอสลาม เพราะพินัยกรรมนั้นเปนนตกรรมท ี่
ู
กฎหมายอสลามให้การยอมรบ ดังทมรายงานจากท่านอบน อมัร ว่าแท้จรงท่านนบ ได้
ิ
ี
ิ
ิ
ั
ุ
ี่
ุ
ี
กล่าวว่า
ِ
ِ
ِ
ِ َ
َ ءيش
َ لّإ َ يـت َ لـي ل َ تيبي ِ هيف ، يـصوـي ْ ُ َ هـ ل َ مـلسم َ ئرما ِ َ قح َ م ا ))َ
ْ
ْ ْ
ُْ
ُ
ْ ُ
ِ
ِ
((هدنع َ ةبوتْ كم َهـتَ ـيصوو
ْ
ُ ُُ
(١٣٧٢ : ٢٩٩١ ،يراخبلا هجرخأ)
ิ
ิ
ี่
ิ
ึ
่
ุ
ิ
ี่
ั
ี
ี
ความว่า “ไม่มสทธส าหรบมสลมคนหนงคนใดทมส่งทเขาได้
ท าพินัยกรรมมัน ผ่านค าคนมาสองคน ยกเว้นการสั่งเสยของ
ี
ื
ื
่
เขานั้นจะต้องถกเขยนเก็บไว้ทเขา”
ี
ี่
ู
(al – Bukhariy, 1992: 2738)
้
5.2.2 ดานปญหาอุปสรรคและแนวทางการแกไขเกี่ยวกับการปฏิบัติจรงในการท า
้
ิ
ั
พินยกรรมของมุสลิมในอ าเภอเมองจงหวัดสตูล
ั
ื
ั
ุ
ั
ื
ปญหาและอปสรรคในการท าพินัยกรรมของมสลมในอ าเภอเมองจังหวัดสตลเกิด
ู
ุ
ิ
ู
ิ
จากความไม่เข้าใจหลักการและกระบวนการในการท าพินัยกรรมตามรปแบบของอสลาม และไม่
สามารถแยกแยะระหว่างมรดกกับพินัยกรรม บางท่านเข้าใจว่าการท าพินัยกรรมเปนการแบ่งมรดก
็
ิ
ี่
ี
ื
ึ
ล่วงหน้า ดังนั้นจงมการท าพินัยกรรมให้แก่ทายาททมสทธ์ ิรบมรดกเกิดข้น จากกรณดังกล่าวถอว่า
ี
ึ
ั
ี
ี
ิ
ขัดแย้งกับข้อบัญญัตทางศาสนาเกี่ยวกับการท าพินัยกรรม ดังมหลักฐานจากท่านอัมร บตร คอรญะฮ ฺ
ุ
ี
ฺ
ิ
ได้กล่าวว่า แท้จรงท่านนบ
ี
ِ
ِ ِ ِ
ِِ
ِِ
ِ
َ َ نإوَ،اتِربَِعصقـتَيهوَانِارجَت تََنَ أوَهتقنََى لعَب طخ ))
َ
ْ
ْ
ُ
ِ
ِ
ِ
ِ
َيذَلكَى طع أَ َ للَّاََ نإ ِ َ: َُ لوقـيَهتعمس َ فَيفتكَيـبَليسيَاهـباعُ ل
َ ُ
ْ
َ ْ ُ
ُ ُُْ
ِ ِ
ِ ِ
ِ ِ
ِ
((َرجلحاَِ رهاعْ للوَ، ِ شارفْ للَد لولاوَ،ثراولَةَ يصو َ،هَ قحَقح
ف
َ
ل
ُ
ُ
ُ
(١٢١١ َ: ٢٩٣١ َ،يذمترلاَهجرخأ)
ุ
์
ความว่า “ได้กล่าวสนทรพจนขณะอยู่บนหลังอฐของท่าน โดย
ู
ี
ู
ี่
มฉันอยู่ใต้คออฐ ทก าลังบดเอ้อง และน ้าลายของมันไหลลง
ื
ระหว่างไหลสองข้างของฉัน ฉันได้ยินท่านกล่าวว่า แท้จรง
ิ
อัลลอฮทรงมอบสทธให้แก่ผู้มสทธทกคน ดังนั้นไม่ม ี
ฺ
ิ
ิ
ุ
ิ
ิ
ี