Page 5 - 023
P. 5
ั
ชื่อวิทยานิพนธ์ การปรับตวของเจ้าหน้าที่ต ารวจ สถานีต ารวจภูธรเมืองปัตตานี
ต่อเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้
ผู้เขียน ร้อยต ารวจเอกภูมิ เสมวรนนท์
สาขาวิชา พัฒนาสังคม
ปีการศึกษา 2556
บทคัดย่อ
ั
ั้
การศึกษาครงนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการปรบตัวของเจ้าหน้าที่ต ารวจ สถานี
ต ารวจภูธรเมืองปัตตานี ต่อเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ และ 2) แสวงหาปัจจัย
ที่มีผลต่อการปรบตัวเจ้าหน้าที่ต ารวจ สถานีต ารวจภูธรเมืองปัตตานี ต่อเหตุการณ์ความไม่สงบใน
ั
สามจังหวัดชายแดนใต้ ประชากรที่ศึกษาเป็นข้าราชการต ารวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีชื่ออยู่ใน
ทะเบียนเจ้าหน้าที่ต ารวจในปีงบประมาณ 2554 และ 2555 จ านวน 350 นาย โดยใช้แบบสอบถาม
ั้
ิ
เป็นเครองมือในการวิจัยเชิงปรมาณครงนี้ และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่ารอยละ
ื่
้
ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า การปรับตัวด้านบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต ารวจภูธรเมืองปัตตานี
ในระดับมาก ( =3.97) และการปรบตัวด้านอตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ ภูธรเมืองปัตตานี
ั
ั
ในระดับปานกลาง ( =2.63) ทั้งนี้พบว่า ระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ ระดับชั้นยศ มีความสัมพันธ์กับการปรบตัวด้านบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ อย่างมี
ั
นัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 0.05 ตามล าดับ และระดับการศึกษามีความสัมพันธ์กับการ
ั
ปรับตัวด้านอตมโนทัศน์ อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในขณะที่ความพอเพียงของรายได้
ั
มีความสัมพันธ์การปรบตัวทั้งด้านบทบาทหน้าที่และด้านอตมโนทัศน์ อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่
ั
ระดับ 0.01 ที่พักอาศัยในขณะปฏิบัติหน้าที่ มีความสัมพันธ์กับการปรบตัวด้านบทบาทหน้าที่และ
ั
ด้านอตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 รวมทั้งรายได้พิเศษ
ั
และการได้รับขั้นเงินเดือน (สองขั้น) มีความสัมพันธ์กับการปรับตัวด้านบทบาทหน้าที่และ
ด้านอัตมโนทัศน์ของเจ้าหน้าที่ต ารวจ อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
(5)