Page 199 - 019
P. 199
199
(1-2 : )
ี
ี
็
ความว่า “อะลฟ ลาม มม คัมภรน้ ไม่มความสงสัยใด ๆ ในนั้นเปน
ี
์
ิ
ี
ั
ค าแนะน าส าหรบบรรดาผู้ย าเกรงเท่านั้น”
ฺ
(อัลบะเกาะเราะฮ : 1-2)
ฺ
้
3.3 วิธการดะอฺวะฮดวยดีวีดี
ี
ิ
ึ
ิ
ิ
ี
ุ
ี
่
ี
ู
้
มอัลลัฟสามารถเข้าใจและปฏบัตหลักการอสลามโดยเรยนรจากดวีดซงทาง
ู
ิ
ิ
ิ
ิ
มูลนธิได้จัดจ าหน่ายและให้ยืม ซงสอดคล้องกับค ากล่าวของครอาล ปฏมาลขต กรรมการโครงการ
ี
่
ึ
ี
ี
ิ
ี่
อบรมผู้สนใจอสลามมูลนธสันตชน ว่า “วิธการทให้มอัลลัฟมการปฏบัตศาสนกิจมหลานวิธ มี
ุ
ี
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ี
ี
ี
ี
ี
ี
ี
ี
ี
ี
ื
ี
เว็บไซต์ มหนังสอให้ยืม มดวีดให้ยืมและมดวีดจ าหน่าย มดาวเทยมด้วย และมทางช่องทเอ็มทวี”
ี
ี
ี
ี
ื่
ส าหรบดวีดเปนส่วนหนงของสอการดะอวะฮทมูลนธเตรยมเอาไว้เพื่อการเรยนการสอนอสลาม
ิ
ี่
ฺ
็
ี
ิ
ิ
ฺ
ึ
ี
ั
่
ื่
ิ
ึ
ี
ดังนั้นสอจงมความส าคัญสอดคล้องกับวิจัยของภัตตมา รองเดช (2005 : บทคัดย่อ) พบว่า “การ
ื่
็
ี่
ิ
ุ
ู
ิ
็
สอสารในสังคมมสลมนั้นถอเปนตัวหลักในการเผยแผ่อสลามทถกต้อง และเปนบ่อเกิดในการ
ื
ฺ
ึ
ื่
พัฒนาทางด้านความคด ดังนั้นสอสารกับการดะอวะฮจงไม่สามารถแยกออกจากกันได้”
ิ
ฺ
ฺ
4. วิธการดะอวะฮด้วยเน้อหา
ฺ
ื
ี
ื
ั
ี
้
ฺ
4.1 วิธการดะอฺวะฮดวยเน้อหาหลักการศรทธา
ื
ิ
ี่
ิ
ิ
เน้อหาทโครงการอบรมผู้สนใจอสลามของมูลนธสันตชนได้เผยแผ่
ิ
ุ
ี่
็
ื
ให้กับบรรดามอัลลัฟเปนเน้อหาทคลอบคลมในสามประการสอดคล้องกับค าให้สัมภาษณของ
ุ
์
ิ
ิ
ิ
ิ
ประธานโครงการอบรมผู้สนใจอสลามของมูลนธสันตชน อาจารย์บรรจง บนกาซัน กล่าว่า “ส่งท ี่
ิ
ิ
ี
ึ
ี
ฺ
่
ื
เราสอนก็มสามอย่าง คออหม่าน อสลาม อหสานนะครบ”ซงสอดคล้องกับการศกษาวิจัยของเฟา
ิ
ิ
ั
ึ
ิ
็
ู
ิ
ซาน เต๊ะมะหมัด (2553 : บทคัดย่อ) พบว่า “แท้จรงการเรยกรองในอสลามเปนการเรยกรองไปส่ส่ง
ี
้
้
ี
ิ
ี
ฺ
ฺ
ี
ั
ู
ทดดะอวะฮอสลาม คอการเรยกรองไปส่ศาสนาของอัลลอฮโดยวางพื้นฐานอยู่บนหลักศรทธา
ี่
้
ิ
ฺ
ื
ี
ต่ออัลลอฮต่อคัมภรของพระองค์ ต่อบรรดามลาอกะฮ์ ต่อบรรดาศาสนทูต ต่อวันอะคเราะฮ และ
ี
ฺ
ี
์
ฺ
ุ
ต่อการก าหนดความดความชั่วมาจากอัลลอฮ”และยังสอดคล้องกับหะดษ ของ ศาสนทูตมหัมมัด
ี
ฺ
ี
2
ั
ี่
ฺ
ี
ู
ิ
้
ึ
ี
ว่า “จงบอกให้ฉันรเกี่ยวกับอมานเถด ?” ท่านนบจงตอบว่า การทท่านศรทธาต่ออัลลอฮต่อ
์
ฺ
บรรดามลาอกะฮของพระองค์ ต่อบรรดาคัมภรของพระองค์ ต่อบรรดา ศาสนทูตของพระองค์ ต่อ
ิ
ี
2
ึ
(บันทกโดย Muslim, 2001 : 8)