Page 240 - 017

240

ชายแดนภาคใต๎และกรุงเทพมหานคร เป็นการการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และวิจัย

เอกสาร (Documentary Research) นําเสนอโดยวิธีการพรรณนา

การเก็บรวมรวมเอกสาร

ศึกษาอัลกุรอาน หะดีษ หนังสือ ตํารา บทความ วารสาร วิทยานิพนธ๑และงานวิจัย

เอกสารตํางๆ ที่เกี่ยวกับการดะอฺวะฮฺ เพื่อตอบคําถามในการวิจัยดังปรากฏอยูํในข๎อที่ 5.1.1 และ

5.1.2 ในการศึกษาข๎อมูลเชิงเอกสารผู๎ วิจัยศึกษาจากแหลํงข๎อมูลที่สําคัญ 3 แหลํง คือ 1) เอกสารขั้น

ปฐมภูมิ (Primary Sources) ได๎แกํ คัมภีร๑อัลกุรอาน หนังสืออรรถาธิบายอัลกุรอานหะดีษ 2) เอกสาร

ขั้นทุติยภูมิ (Secondary Sources) ได๎แกํ หนังสือ ตํารา ที่เกี่ยวข๎องกับการดะอฺวะฮฺ วิทยานิพนธ๑และ

งานวิจัยที่เกี่ยวข๎อง คือ 3) เอกสารขั้นตติยภูมิ (Tertiary Sources) ได๎แกํ พระมหาคัมภีร๑อัลกุรอาน

พร๎อมความหมายภาษาไทยของสมาคมนักเรียนเกําอาหรับ ประเทศไทย และหนังสือพจนานุกรม

อธิบายศัพท๑ภาษาอาหรับ

การเก็บข้อมูลภาคศึกษาภาคสนาม

ผู๎วิจัยเก็บข๎อมูลภาคศึกษาภาคสนาม เพื่อตอบคําถามในการวิจัยดังปรากฏอยูํใน

ข๎อที่ 5.1.3 กลุํมตัวอยําง ได๎แกํ กลุํมตัวอยํางที่เป็นตัวแทน ( Typical Cases) จากแกนนําขององค๑กร

มุสลิมะฮฺจํานวน 11 คน จํานวน 6 องค๑กร โดยแบํงผู๎ให๎ข๎อมูล เป็นองค๑กรลํะ 2 คน จํานวน 5 องค๑กร

และองค๑กรลํะ 1 คน จํานวน 1 องค๑กร เครื่องมือที่ใช๎ในการเก็บข๎อมูล คือ สัมภาษณ๑เชิงลึก ( In-depth

Interview) ผู๎วิจัยสร๎างขึ้นโดยศึกษาค๎นคว๎าจากตํารา หนังสือ วารสาร และบทความทางวิชาการที่

เกี่ยวข๎อง โดยศึก วิธีการสร๎างเครื่องมือแบบการสัมภาษณ๑ ทําแนวคําถามในการสัมภาษณ๑ โดย

กําหนดขอบเขตคําถามให๎เกี่ยวกับ ศึกษาวิธีการดะอฺวะฮฺขององค๑กรมุสลิมะฮฺ จากนั้นผู๎วิจัยสร๎าง

เครื่องมือตามขอบเขตนําแนวคําถามในการสัมภาษณ๑ที่สร๎างขึ้น โดยให๎ผู๎ทรงคุณวุฒิตรวจสอบ

จากนั้นนําแบบสัมภาษณ๑มาปรับปรุงจากข๎อคําเสนอแนะของผู๎ทรงคุณวุฒิ หลังจากนั้นผู๎วิจัยได๎

ดําเนินการเก็บรวบรวม ข๎อมูลโดยทําการสัมภาษณ๑เชิงลึก ( In-depth Interview) และทําการบันทึก

เทปทุกครั้งที่สัมภาษณ๑ พร๎อมจดบันทึกข๎อมูลที่สําคัญ จากนั้น นําข๎อมูลที่ได๎จากการสัมภาษณ๑มา

ถอดเทปทุกถ๎อยคําหลังการสัมภาษณ๑ และการวิเคราะห๑ข๎อมูลในงานวิจัยนี้ สํวนหนึ่งเกิดขึ้นใน
ขณะที่กําลังรวบรวมข๎อมูลอยูํ และทําการตรวจสอบข๎อมูลโดยวิธีการสามเส๎า (triangulation)