Page 171 - 017
P. 171
171
ค. ทํานหญิงหัฟเศาะฮฺ
การเก็บรักษาต๎นฉบับอัลกุรอาน เป็นสิ่งที่มีความสําคัญอยํางยิ่งยวดเพราะถือเป็น
ธรรมนูญแหํงชีวิตผู๎ศรัทธา ซึ่งการเก็บรักษาต๎นฉบับไว๎อยํางดี ไมํได๎รับความเสียหาย หรือการ
บิดเบือน ถือเป็นการรักษาปฐมบทหรือแหลํงที่มาหลักในการดะอฺวะฮฺมนุษยชาติ Ummu ‘Urwah
(1987: 73-74) กลําววํา ‚ทํานหญิงหัฟเศาะฮฺ เป็นผู๎ที่รักษาต๎นฉบับอัลกุรอานฉบับแรกที่
รวบรวมโดยซัยด๑ บุตร ษาบิต ซึ่งทํานเคาะลีฟะฮฺอบูบักรฺ ได๎ดําริให๎รวบรวมขึ้น กํอนหน๎านี้
ต๎นฉบับของอัลกุรอานถูกเก็บรักษาโดยอบูบักรฺ ครั้นเมื่อทํานเสียชีวิตก็ตกอยูํภายใต๎การดูแล
ของทํานอุมัรฺ เคาะลีฟะฮฺคนตํอมา ‛ มุฮัมมัด อะลี กุฎุบ (2555: 113) กลําววํา ‚ทํานหญิง
หัฟเศาะฮฺ คือ ผู๎ที่เก็บรักษาคัมภีร๑ของอัลล อฮฺ โดยนางเก็บไว๎ทั้งในหัวใจและที่พํานักของ
นาง‛
นอกจากการเก็บรักษาธรรมนูญของอิสลามไว๎เป็นอยํางดีสําหรับทํานหญิง
หัฟเศาะฮฺ S.M. Madani (2544: 68) กลําววํา ‚ทํานนบี เคยบอกนางเกี่ยวกับวิวรณ๑ (วะหฺยุ)
และยังพูดคุยเรื่องศาสนาและเรื่องสังคมกับนาง ทํานได๎สั่งสอนนางในเรื่องของศาสนาและเรื่อง
ํ
อื่นๆ อยํางละเอียด ดังนั้นผลที่ตามมาก็คือ นางไมํเพียงแตเป็นสตรีที่มีการศึกษาเทํานั้น แตํยังเป็นคร ู
ผู๎ชี้แนะและเป็นแหลํงอ๎างอิงในเรื่องศา สนาอีกด๎วย‛ ทํานหญิงหัฟเศาะฮฺ เป็นที่รู๎จักในฐานะ
ของผู๎ที่ความรู๎ ความสามารถ (ในการวินิจฉัยปัญหาศาสนา) ซึ่งสามารถพบ คําฟัตวาของนางใน
หนังสือฟิกฮฺตํางๆ ทั้งหมดนี้ชี้ให๎เห็นวํานางเป็นสตรีคนหนึ่งที่เป็นนักฟิกฮ๑ (นิติศาสตร) ทํามกลาง
๑
เศาะหาบะฮฺสมัยนั้น (Khalid bin Ibrahim, 2011: 463-464) เศาะหาบะฮฺหลายทํานรับคําสั่งเสียของ
ทํานนบี ผํานทํานหญิงหัฟเศาะฮฺ ที่มากที่สุดคือ อับดุลลอฮฺ บุตร อุมัรฺ อับดุลลอฮฺ
เป็นผู๎ที่มีความสามารถและได๎รับหะดีษหลายบทจากทํานหญิงหัฟเศาะฮฺ พี่สาวทําน อับดุลลอฮฺ
พบเจอทํานหญิงหัฟเศาะฮฺ เป็นประจํา ซึ่งมีโอกาสมากที่จะถามทํานหญิงหัฟเศาะฮฺ
เกี่ยวกับเรื่องราวตํางๆ ของศาสนา (Khalid bin Ibrahim, 2011: 479) เรื่องราวข๎างต๎นบํงชี้ได๎อยํางดี
วํา นอกจาก ทํานหญิงอาอิชะฮฺและทํานหญิงอุมมุสะละมะฮฺ ผู๎ที่เป็นแหลํงความรู๎วิทยาการ
อิสลามแล๎ว ทํานหญิงหัฟเศาะฮฺ ก็เป็นภรรยาอีกทําน ที่เป็นแหลํงที่มาของวิทยาการอิสลาม
เชํนกัน