Page 179 - 001
P. 179
168
1 ส่วน 4 ของวะระหะเรียกว่าฟะนัม (fanams) มีน้ำหนักอยู่ที่ราว 5.5 เกรน หน่วยที่เล็กที่สุด
ของเหรียญทองคือ จิตัล (jital) 100 จิตัลเท่ากับ 1 วะระหะ
ตัวเหรียญเองจะทำเป็นรูปเทพ เทพี และสัญลักษณ์ต่างๆตามที่กษัตริย์แต่ละพระองค์
จะนับถือ ดังเช่น ในสมัยแรกเริ่ม เหรียญจะเป็นรูปครุฑและหนุมาน สมัยพระเจ้าหริหระที่ 2
เปลี่ยนมาเป็นรูปพระลักษมีนารายนะ (Lakshmi Narayana) หรือรูปพระวิษณุประทับเคียงข้าง
พระลักษมี ในขณะที่สมัยพระเจ้าทวะรายาที่ 2 กลับทำเป็นรูปอุมามเหศวรหรือรูปพระศิวะและ
พระอุมาประทับนั่งอยู่บนโคนนทิ ส่วนตัวอักษรนั้นจะใช้ 3 แบบด้วยกัน คือ นาคารี (Nāgāri
script) กันนะทะ (Kannada) และเตลุคุ (Telugu)
• ศาสนา อาณาจักรวิชัยนครเป็นอาณาจักรของชาวฮินดูโดยแท้จริง ลัทธิไศวนิกาย
และไวษณพนิกายเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่งในอาณาจักรแห่งนี้ อย่างไรก็ดี กษัตริย์แห่งวิชัยนคร
ก็มีน้ำพระทัยกว้างขวางไปถึงศาสนาอื่นๆด้วย เช่น ศาสนาเชน ที่กษัตริย์หลายพระองค์ให้การ
สนับสนุนและช่วยเหลือในการสร้างศาสนสถาน และแม้ว่ากษัตริย์แห่งวิชัยนครจะต่อสู้กับแคว้น
มุสลิมต่างๆ แต่พระองค์ก็ให้เกียรติศาสนาอิสลาม และให้อิสระแก่ทหารมุสลิมในกองทัพของ
พระองค์ พระเจ้าเทวะรายาที่ 2 ยังได้สร้างมัสยิดเพื่อให้ชาวมุสลิมใช้ประกอบศาสนกิจในเมือง
หลวง อย่างไรก็ดี การเผยแพร่ศาสนาคริสต์ของชาวโปรตุเกสที่เข้ามาติดต่อค้าขายในขณะนั้น
แฝงจุดประสงค์ทางการเมืองเอาไว้ กษัตริย์จึงไม่ทรงอนุญาตให้เผยแผ่ศาสนาคริสต์ในเมืองหลวง
25
แต่อย่างใด
• วรรณกรรม ภายใต้การอุปถัมภ์ของกษัตริย์แห่งวิชัยนคร นักกวี นักปราชญ์ นักการ
ศาสนาได้ผลิตงานในภาษาสันสกฤตออกมาเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ในส่วนภูมิภาคก็มีงานใน
ภาษาเตลุคุ กันนะทะ และทมิฬออกมาเช่นเดียวกัน
การล่มสลายของอาณาจักรวิชัยนครเกิดจากการขยายอำนาจของรัฐมุสลิม อย่างไรก็ดี
นอกจากวิชัยนครแล้ว ยังปรากฏแคว้นฮินดูอื่นๆอีกในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน ได้แก่ แคว้น
26
โหยสฬะ (Hoysalas) แคว้นโอริสสา (Osissa) แคว้นเมวาระ (Mewar) แคว้นอัสสัม (Assam)
และแคว้นเนปาล (Nepal) แคว้นเหล่านี้บางแคว้นมีช่วงการดำรงอยู่ในช่วงเวลาอันสั้น ดังนั้น จึง
ไม่สามารถสืบทอดวัฒนธรรมฮินดูเฉกเช่นวิชัยนครเอาไว้ได้
ในขณะที่เอกภาพทางการเมืองของอาณาจักรมุสลิมทางภาคเหนือก็เริ่มสลายลงตั้งแต่
ุ
พทธศตวรรษที่ 21 (คริสต์ศตวรรษที่ 15-ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16) อินเดียอยู่ในสภาพแตกแยก
ออกเป็นรัฐเล็กรัฐน้อย โดยแยกการปกครองเป็นอิสระจากสุลต่านแห่งเดลี บริเวณภาคเหนือ
และภาคตะวันตกแยกออกเป็นรัฐมุสลิมถึง 8 รัฐ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ด้านตะวันออกแคว้น
เบงกอลก็แยกตัวออกมาเป็นอิสระ ส่วนในเขตที่ราบสูงภาคกลางด้านตะวันตก ได้แก่ แคว้น
ิ
คุชราต มัลวะ พหาร และที่ราบสูงเดคข่าน ก็ถูกต่อต้านจากชาวฮินดูซึ่งมีความรู้สึกชาตินิยม
อย่างเหนียวแน่น ดังนั้น อำนาจของสุลต่านแห่งเดลีในพุทธศตวรรษที่ 21 (คริสต์ศตวรรษที่ 16)
จึงจำกัดขอบเขตอยู่เฉพาะดินแดนปัญจาบตะวันออกและบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำคงคาเท่านั้น
25 Durga Prasad. History of the Andhras upto 1565 A.D., pp. 266-267.
26 แคว้นนี้เป็นการรวมตัวกันของพวกราชปุตเป็นสมาพันธรัฐโดยมีตระกูลเมวาระเป็นผู้นำ