Page 76 - 071
P. 76
59
400RR 0BA 400RR 10BA
1.11 1.090
1.085
1.10
1.080
Density (g/m 3 ) 1.09 Density (g/m 3 ) 1.075
1.070
y
0.006x
1.08
R 0.996
2
R 0.994 1.115 1.065 y 0.005x 1.097
2
1.060
1.07
1.055
1.06 1.050
1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 2 3 4 5 6 7 8 9
phr phr
ภาพที่ 4.32 แสดงคาความหนาแนนของตัวอยางที่ผสม RR 400 phr BA 0 และ 10 phr ตามลําดับ
4.4 ผลการศึกษาโครงสรางภายในโดยเครื่อง Scanning Electron Microscope, SEM
็
การศึกษาโครงสรางภายในของตัวอยางตางๆนั้น ผูวิจัยไดแบงการศึกษาออกเปน 3 ประเดน
ั
ิ
ประเดนแรก ศกษาอิทธพลของ LDPE โดยจะเลือกตวอยางที่ S1, S2, S3 และ S4 ประเดนที่สอง
็
็
ึ
ศึกษาอิทธิพลของ RR โดยจะเลือกตัวอยางที่ S1, S5 และ S9 และประเด็นสุดทาย ศึกษาอิทธิพลของ
BA โดยจะเลือกตัวอยางที่ S1 และ S13 เพื่อนํามาเปรียบเทียบกัน
4.4.1 อิทธิพลของ LDPE ตอโครงสรางภายในของแผนตัวอยาง
ึ
ั
ั
จากผลการศึกษาอิทธิพลของ LDPE จะเห็นวาตวอยาง S1 ยงไมเห็นถงความเปนรู
ี
พรุน แตการกระจายตัวของเศษแผนฟลม LDPE มีการกระจายตัวด เมื่อมีการเพิ่ม LDPE เปน 6 phr
ั
นอกจากการกระจายตวดของเศษแผนฟลม LDPE แลว เศษแผนฟลม LDPE ยงมีการคลี่ตวออกมา
ั
ั
ี
เพื่อกันความรอนไดดีขึ้นเชนตัวอยาง S3 และตวอยางที่ S8 เปนตวอยางที่เพิ่ม RR 10 phr, LDPE 8
ั
ั
phr สังเกตไดวาจะมีรูพรุนเพิ่มขึ้น จึงทําใหเพิ่มปริมาตรอิสระภายในตัวอยางสมบัติเชิงกลที่ไดจึงลดลง
ดังรูปที่ 4.33-4.35